Sale Page คืออะไร?

Sale Page คือ หนึ่งในหน้าบนเว็บไซต์ที่จะมีข้อมูลเกี่ยวกับสินค้า / บริการของธุรกิจ ซึ่งเนื้อหาต้องเน้นจุดเด่นเพื่อสร้างความน่าสนใจพร้อมกระตุ้นให้ผู้เยี่ยมชมเว็บรู้สึกอยากซื้อ สามารถปิดการขายได้ในตัวเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องเปิดไปหน้าอื่นของเว็บ ซึ่งรายละเอียดเบื้องต้นที่ควรมีประกอบไปด้วย ข้อมูลสำคัญของผลิตภัณฑ์ รูปภาพสวย ๆ ของสินค้า / บริการ ราคา ส่วนลด โปรโมชั่น รีวิวจากลูกค้า อาจเพิ่มเติมคลิปวิดีโอการใช้งาน หรือคลิปที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ เข้าไปด้วยก็ได้เช่นกัน แต่สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเด็ดขาดคือการมี “ปุ่มสั่งซื้อ” หรือ “ปุ่มหยิบใส่ตะกร้า” รวมถึงช่องทางการติดต่ออื่น ๆ กรณีที่ลูกค้าอยากสอบถามเพิ่มเติม

ออกแบบ Sale Page ยังไงให้ลูกค้าสนใจอยากคลิกซื้อ

หลังทำความรู้จักกับ Sale Page กันไปพอสมควรแล้ว จะเห็นว่าหน้าเว็บไซต์ดังกล่าวจะแตกต่างกับหน้าอื่นมาก เพราะเน้นให้ผู้เยี่ยมชมรู้สึกสนใจและอยากสั่งซื้อสินค้า / บริการ ด้วยเหตุนี้การรู้เทคนิคออกแบบ Sale Page ที่ดีย่อมสร้างผลลัพธ์ชั้นยอดต่อธุรกิจอย่างไม่ต้องสงสัย

1. เข้าใจประเภทสินค้า / บริการ และสไตล์ของกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน

ก่อนออกแบบ Sale Page (One Page Website) รวมถึงทั้งเว็บไซต์คุณต้องเข้าใจประเภทสินค้า / บริการที่ขาย รวมถึงสไตล์ของกลุ่มเป้าหมายว่าชอบแบบไหน มีลักษณะเป็นอย่างไร เช่น ขายสินค้าไอที Gadget ต่าง ๆ กลุ่มเป้าหมายคือคนทันสมัย คนที่คลุกคลีอยู่กับแวดวงไอที หน้า Sale Page จึงต้องเน้นความอลังการ มีการใช้ลูกเล่น กราฟิก หรือฟีเจอร์ที่เหนือชั้นเพื่อกระตุ้นความตื่นตาตื่นใจ แต่ถ้าสินค้าเป็นของแบรนด์เนม กลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ การปรับแต่งหน้านี้ก็ควรเน้นความหรูหรา มีระดับ ดู Luxury เป็นต้น

2. ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญมาก

เนื่องจากจุดประสงค์ที่อยากให้ลูกค้ากดเข้ามายังหน้า Sale Page หรือ Single Page Website ก็เพื่อการตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น ข้อมูลของสินค้า / บริการ จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และต้องอธิบายอย่างละเอียดภายใต้ความกระชับ ครบถ้วน ไม่เยิ่นเย้อ เน้นรายละเอียดสำคัญ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ มีการจัดวางเนื้อหาให้สมูท อ่านง่าย แค่มองผ่านครั้งแรกก็รู้สึกน่าอ่าน เช่น การใช้หัวข้อตัวใหญ่ การมีลิสต์หัวข้อย่อย ประโยคไม่ต้องยาวมาก มีการตัดบรรทัดเพื่อขึ้นย่อหน้าใหม่หากเนื้อหายาวเกินไป มีกรอบสรุปข้อมูลสั้น ๆ เป็นต้น นี่คืออีกเทคนิคที่ช่วยให้คนอยากกดคลิกซื้อเร็วกว่าเดิม

3. Call to Action สิ่งที่ต้องมีบน Sale Page

ในการออกแบบ Sale Page บางเรื่องคุณอาจข้ามไปบ้างไม่ใช่ประเด็นสำคัญขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้า / บริการ หรือความสมดุลของหน้าเว็บ แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้และย้ำว่า “ต้องมี” นั่นคือปุ่ม “Call to Action” (CTA) หรือปุ่มที่จะกระตุ้นให้ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้า เทคนิคในการทำปุ่ม CTA ต้องเน้นความแตกต่างและสะดุดตาจากเนื้อหาทั่วไป เช่น ความนูน สีสัน การใช้เครื่องหมาย ! ปิดท้ายประโยค เช่น ซื้อเลย! รวมถึงต้องวางตำแหน่งไว้หลาย ๆ จุดเพื่อความสะดวกของคนที่เข้ามาดู ไม่ต้องเลื่อนหาบ่อย

4. โปรโมชั่นจะช่วยให้คนอยากซื้อมากขึ้น

อีกความพิเศษของการที่จะทำให้คนอยากคลิกซื้อสินค้า / บริการของคุณต้องยกให้กับการมีโปรโมชั่นน่าสนใจ ซึ่งจุดนี้เองการทำ Sale Page ยังไงก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใส่เข้าไปด้วย แนะนำว่าควรใส่โปรหลัก ๆ ที่คุณจะใช้แบบระยะยาว เช่น สมัครสมาชิกฟรี ส่งฟรี (กรณีที่ไม่ค่อยมีเวลาปรับแต่งใหม่บ่อย) แต่ถ้าธุรกิจไหนมีทีมดูแลเว็บไซต์โดยตรงก็สามารถใส่ทุกโปรที่คุณต้องการนำเสนอให้กับลูกค้าได้เลย ส่วนการออกแบบอาจทำเป็นแบนเนอร์ก่อนคลิกเข้าหน้าจริง หรือทำเป็นภาพกราฟิกสไตล์ไหนก็ตามสะดวก

5. ตัวอย่างลูกค้าชื่อดังหรือรีวิวจากลูกค้าจริง

การสร้างความน่าเชื่อถือเพื่อกระตุ้นให้คนอยากคลิกสั่งซื้อสินค้า / บริการก็เป็นอีกเทคนิคที่ไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูง หรือมีคู่แข่งเยอะ ดังนั้นการเพิ่มเติมรายละเอียดจำพวกตัวอย่างลูกค้าชื่อดังที่เป็นคู่ค้ากับคุณ การนำเอารีวิวจากลูกค้าจริงมาใส่เอาไว้ในหน้า Sale Page จะช่วยสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้คนเข้ามาหน้าเว็บตัดสินใจซื้อง่ายกว่าเดิม

6. รองรับการใช้งานกับทุกแพลตฟอร์ม

ปิดท้ายในการทำ Sale Page ที่ดีต้องเลือกใช้โปรแกรมสำเร็จรูปหรือประเภทเว็บไซต์ที่รองรับได้ทุกช่องทางการเข้าชม อธิบายง่าย ๆ ก็คือ รองรับทั้งรูปแบบคอมพิวเตอร์ปกติและแบบมือถือ ไม่ว่าจะเข้าชมผ่านช่องทางไหนก็ต้องดูสมูท เข้าใจง่าย เนื้อหาครบถ้วน ตัวอักษรไม่ตกหล่น ไม่กระโดด ภาพคมชัด คลิปวิดีโอเล่นได้ตามปกติ จะช่วยกระตุ้นความอยากซื้อและความรวดเร็วในการกดสั่งซื้อเร็วขึ้นแน่นอน

สรุปแล้ว Sale Page คือ อีกหน้าเว็บไซต์ที่มีความสำคัญมากของธุรกิจ เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและผลกำไรโดยเฉพาะกับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่พึ่งเข้ามาครั้งแรก หรือคนที่ยังไม่เคยซื้อสินค้า / บริการจากธุรกิจของคุณมาก่อน การออกแบบให้สะดุดตา น่าสนใจ ด้วยเทคนิคต่าง ๆ ย่อมช่วยสร้างแรงดึงดูดพร้อมกระตุ้นการเปลี่ยนจากกลุ่มเป้าหมายหรือผู้เยี่ยมชมทั่วไปสู่การเป็นลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม