ROI คืออะไร เรื่องที่คนทำธุรกิจต้องรู้?

 

มาทำความรู้จักกับ ROI คืออะไร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจ เพราะ ROI เป็นการวัดประสิทธิภาพของการลงทุน ทั้งนี้ความสำคัญของ ROI ช่วยประเมินสถานการณ์ต่อไปของธุรกิจได้ โดยเฉพาะในยามที่ต้องการลงทุนเพิ่ม หรือขยับขยายธุรกิจ ครั้งนี้ทางบทความก็ได้นำเอาข้อมูลความรู้มาฝาก ดังนี้ 

 

ROI คืออะไร?

 

รู้จักกับ ROI ซึ่งย่อมาจาก Return of Investment โดย ROI คือผลตอบแทนจากการลงทุน ธุรกิจควรนำไปใช้ในการคำนวณหาความคุ้มค่า จากสิ่งที่ได้กลับมาจากการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนจากโฆษณา การลงทุนการผลิต การลงทุนด้านการตลาด ฯลฯ หากต้องการทราบมูลค่าของสิ่งที่ได้รับหลังจากที่ลงทุนไปแล้ว สามารถนำ ROI ไปคำนวณได้ 

 

สูตรการคำนวณ ROI คืออะไร

 

%ROI = [(รายได้ – ต้นทุน)/ต้นทุน] x 100

 

ยกตัวอย่างที่ 1 ถ้าหากต้องการคำนวณ ROI ของการลงทุนในโฆษณา Google ด้วยต้นทุน 5,000 บาท หลังจากนั้นผ่านไป 1 เดือนเมื่อมาเก็บข้อมูลพบว่าโฆษณานั้นทำยอดขายได้ 20,000 บาท 

 

%ROI = [(20,000 – 5,000)/5,000] x 100 = 300%

 

ยกตัวอย่างที่ 2 ถ้าหากต้องการคำนวณ ROI ของการลงทุนในหุ้น โดยซื้อหุ้นไป 2,000 บาท แต่ขายได้ 3,000 บาท 

 

%ROI = [(3,000 – 2,000)/2,000] x 100 = 50%

 

ยกตัวอย่างที่ 3 ถ้าหากต้องการคำนวณ ROI ของการลงทุนการทำขนมปังขาย โดยขายได้ 5,000 บาท แต่ซื้อวัตถุดิบมาทำหมดไป 2,000 

 

%ROI = [(5,000 – 2,000)/2,000] x 100 = 150%

แต่การคำนวณ ROI หากคำนวณแบบด้านบน จะเป็นผลลัพธ์ของการคำนวณจากการลงทุนอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้ว ROI จะเป็นประสิทธิภาพของการลงทุนด้านนั้น อย่างเช่นประสิทธิภาพของการยิงแอดโฆษณานั้นๆ ประสิทธิภาพของการลงทุนในวัตถุดิบนั้นๆ เป็นต้น แต่นิยมมากในการนำมาคิดประสิทธิภาพการยิงแอด โดยเฉพาะการคำนวณเปรียบเทียบระหว่างแอดโฆษณาหลายๆ อย่าง เช่น เปรียบเทียบระหว่างแอด Google กับ แอด Facebook

 

ยกตัวอย่าง ใช้เงินยิงแอดทั้งหมด 20,000 บาท เป็นการยิงแอด Google และแอด Facebook ผ่านไป 1 เดือนมาเก็บข้อมูลพบว่าแอด Google ทำยอดขายได้ 40,000 บาท ส่วนแอด Facebook ทำยอดขายได้ 30,000 บาท

 

  • %ROI จากแอด Google = [(40,000 – 20,000)/20,000] x 100 = 100%
  • %ROI จากแอด Facebook = [(30,000 – 20,000)/20,000] x 100 = 50%

ข้อจำกัดของ ROI คืออะไร

 

แม้ว่า ROI จะคำนวณประสิทธิภาพการลงทุน แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมต้นทุนทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องของระยะเวลาในการลงทุน ซึ่งมีผลกับธุรกิจอย่างมาก แต่เวลาคิด ROI จะไม่ได้ครอบคลุมส่วนนี้ รวมถึงค่าเสียโอกาส ความเสี่ยง ภาวะเงินเฟ้อ และอื่นๆ 

 

ประโยชน์ของ ROI คืออะไร

 

ROI มีประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ ดังนี้ 

 

1.ช่วยให้รับรู้ประสิทธิภาพการลงทุน

 

ประโยชน์ข้อแรกของการคำนวณ ROI คือจะทำให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดได้รับรู้ถึงประสิทธิภาพการลงทุน เพื่อนำไปต่อยอดการทำธุรกิจต่อ หากได้รู้ถึงประสิทธิภาพที่ค่อนข้างต่ำ อาจยุติการลงทุนในช่องทางนั้น หรืออาจปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการลงทุนให้ดีขึ้น 

 

2.ช่วยในการวางแผนธุรกิจในอนาคต

 

การคำนวณ ROI ถือเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ เพื่อการวางแผนธุรกิจในอนาคตได้ หากพบว่าประสิทธิภาพการลงทุนเป็นไปในทิศทางที่ดี อาจต่อยอดทำอย่างอื่นเพิ่มเติมได้ หรือพยายามรักษาสภาวะการลงทุนให้คงที่เอาไว้ได้ แต่ถ้าหากพบว่า ROI ต่ำ มีประสิทธิภาพการลงทุนที่ไม่เป็นไปตามเป้า อาจจะวางแผนประหยัดงบการลงทุนในอนาคตได้ หรือปรับเปลี่ยนแผนใหม่ได้ทันเวลา

 

3.ช่วยประเมินสถานการณ์ของธุรกิจ

 

เมื่อนักธุรกิจหรือนักการตลาดคำนวณ ROI ออกมาแล้ว จะทำให้รับรู้ถึงสถานการณ์ของธุรกิจในเวลานั้นได้ ซึ่งจะสามารถประเมินทั้งโอกาสและความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง จึงช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ บางรายหากมีการใช้ช่องทางโฆษณาหลายช่อง เมื่อคำนวณ ROI ออกมาแล้ว จะรู้ว่าโอกาสที่จะสร้างการรับรู้หรือปิดยอดขายช่องทางไหนดีที่สุด และรู้ว่าควรปิดการสื่อสารช่องทางไหนไปก่อน

 

4.ช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุน

 

ในการลงทุนแต่ละครั้ง นักธุรกิจหรือนักการตลาดล้วนมีเป้าหมาย ส่วนมากกำหนดเป็นตัวเลข ว่าต้องมียอดขายเท่าไร หรือมี ROI กี่เปอร์เซ็นต์ ทำให้ ROI ช่วยกำหนดเป้าหมายการลงทุนได้ โดยตัวเลข ROI มักอ้างอิงจากที่เคยทำได้ในเดือนก่อนหน้า หรือเป็นค่าเฉลี่ยของหลายๆ เดือนก่อนหน้านั้น การกำหนดเป้าหมายจะช่วยให้การดำเนินงานระหว่างทางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะถ้าหากมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ยอดขายที่เกิดขึ้นระหว่างทางจะช่วยประเมินความเป็นไปได้ในระดับหนึ่ง หากรู้สึกว่ายอดขายขึ้นช้าเกินไป และไกลเป้าหมายแบบไม่สมเหตุสมผล อาจปรับแผนธุรกิจเพื่อเร่งปิดการขายได้

 

5.ช่วยลดความเสี่ยง

 

การคำนวณ ROI ช่วยลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะธุรกิจที่มีการยิงแอดหลายช่องทาง เมื่อเห็น %ROI แล้ว สามารถลดงบช่องทางใดช่องทางหนึ่งได้ หากพบว่าประสิทธิภาพการลงทุนในช่องทางนั้นค่อนข้างต่ำ เสี่ยงต่อยอดขายโดยรวม สามารถปิดช่องทางนั้นไปก่อนได้ เพื่อประหยัดงบและเหลือไว้เพียงช่องทางโฆษณาที่คุ้มค่าที่สุด  

 

ค่าที่เหมาะสมของ ROI คืออะไร? 

 

ค่า ROI ที่เหมาะสม ไม่มีกำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ แต่โดยรวมแล้วค่า ROI ที่สูงจะแสดงถึงประสิทธิภาพการลงทุนที่ดี แต่ถ้าหากมีค่าที่ต่ำ ประสิทธิภาพการลงทุนก็ด้อยลงไปด้วย 

 

กล่าวโดยสรุป ROI คือประสิทธิภาพการลงทุน โดยผลลัพธ์ที่สูง ย่อมสะท้อนประสิทธิภาพการลงทุนที่ดี แต่ถ้าหากมีผลลัพธ์ที่ค่อนข้างต่ำ อาจหมายถึงประสิทธิภาพการลงทุนนั้นไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งจะช่วยประเมินสถานการณ์เบื้องต้นของธุรกิจได้ นำไปสู่การกระทำต่อไปภายในธุรกิจ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า ซึ่งสำคัญมากกับการลงทุนในแต่ละเดือน