แจกเทคนิคการเขียนโฆษณาสินค้าให้น่าคลิก

เทคนิคการเขียนโฆษณาสำคัญต่อธุรกิจ หากแบรนด์ต้องการประชาสัมพันธ์อะไรสักอย่าง หากเขียนโฆษณาไม่ดึงดูด ไม่ทำให้คนคลิก สิ่งที่จะบอกนั้นก็ไม่เป็นผล กลุ่มเป้าหมายไม่รับรู้ สินค้าก็ขายไม่ได้ ทำให้การเขียนโฆษณาสำคัญมาก ครั้งนี้ทางบทความจึงต้องการที่จะนำเทคนิคเขียนโฆษณามาฝาก เน้นๆ ให้คนคลิกเข้ามาอ่านโดยเฉพาะ 

1.สั้นกระชับ 

เทคนิคการเขียนโฆษณาข้อแรกที่ต้องทำ ก็คือการจัดการข้อความให้สั้นกระชับ โดยเฉพาะข้อความที่ต้องการให้เห็นเป็นจุดแรก ส่วนนี้ต้องสั้นกระชับที่สุด แต่ก็ต้องได้ใจความด้วย เน้นสิ่งที่ต้องขายก่อน ส่วนคำอธิบายค่อยไปเขียนย่อยลงมาในส่วนถัดไปหรือค่อยไปเขียนในเนื้อหาหลังจากที่คนคลิกโฆษณาเข้าไปอ่านแล้วก็ได้ แต่ให้ข้อความแรกดึงดูดสายตาไว้ก่อน หากส่วนนี้ยาวเกินไป ตัวหนังสือจะเล็ก ทำให้อ่านยาก ความน่าสนใจจะลดลง และมีผลต่อการคลิกโฆษณาเข้าไปอ่าน 

2.เอา Paint Point มาใส่ในภาพโฆษณา

เทคนิคการเขียนโฆษณาอันดับถัดมา Paint Point ช่วยได้ โดยการเอาปัญหาของกลุ่มเป้าหมายมาใช้เขียนโฆษณา ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสการคลิกโฆษณามากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น การเขียนโฆษณาขายสเปร์ยฉีดเท้า เปรียบเทียบระหว่างแบบที่ 1 การเขียนโฆษณาด้วยข้อความว่า “สเปร์ยฉีดเท้า ราคา 99 บาท” ประกอบกับภาพสินค้า และแบบที่ 2 การเขียนโฆษณาด้วยข้อความว่า “เท้าหายเหม็นด้วยราคา 99 บาท” ประกอบกับภาพสินค้า แบบที่ 2 คือการเอา Paint Point มาใส่ในภาพโฆษณา ซึ่งเป็นการนำเอาปัญหาของของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็คือคนที่มีปัญหาเท้าเหม็น มาใส่ไว้ในโฆษณาว่าจะแก้ปัญหาได้ด้วยสินค้าตัวนี้ และเป็นไปได้ว่าการเขียนโฆษณาแบบที่ 2 อาจจะดึงดูดให้คนหยุดอ่านและคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้มากกว่า

3.ใส่สิ่งที่เหนือความคาดหมายเอาไว้

เทคนิคการเขียนโฆษณาถัดมา ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คนคลิกเข้าไปอ่านก็คือการใส่สิ่งที่เหนือความคาดหมายเอาไว้ หรือทำให้คนอ่านรู้สึก ว้าว! สิ่งแรกที่ต้องวิเคราะห์คือความคาดหมายของกลุ่มเป้าหมายคืออะไร จากนั้นก็ประเมินออกมาว่าสิ่งที่จะให้กลุ่มเป้าหมายได้นั้นเหนือความคาดหมายตรงไหนแล้วก็ประดิษฐ์คำลงไปได้เลย แนวนี้มักทำได้ดีกับโปรโมชั่น เช่น ซื้อ 1 ได้ถึง 2 ก็คือความคาดหมายสำหรับราคาเท่านั้นจะได้แค่ 1 แต่กลับได้มากกว่า 1 นั่นคือสิ่งที่เหนือความคาดหมาย หรือการโฆษณาที่พักด้วยข้อความ ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สอดคล้องกับเทคนิคนี้ 

สิ่งที่ต้องระวังสำหรับเทคนิคนี้คือการโฆษณาเกินจริง หากอะไรที่มันดูเกินความจริงไปย่อมไม่ส่งผลดี และอาจเกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์ทำให้แบรนด์พังได้อีกด้วย

4.ใช้เทคนิค Scarcity Marketing 

เทคนิคการเขียนโฆษณาถัดมา หากเขียนธรรมดาแล้วคนไม่คลิก ลองใช้เทคนิคนี้เพราะได้ผลมาแล้วหลายรายนั่นก็คือเทคนิค Scarcity Marketing การเขียนโฆษณาให้กลุ่มเป้าหมายกลัวพลาด ทำให้พวกเขารู้สึกว่าถ้าไม่ซื้อตอนนี้ก็ไม่ได้แล้ว เร่งการซื้อด้วยข้อความกระตุ้น เช่น 10 ชิ้นสุดท้าย โปรวันสุดท้าย แจกโค้ดวันเดียว เป็นต้น เทคนิคการเขียนโฆษณาแบบนี้ช่วยกระตุ้นการซื้อได้จริง แต่ต้องระวังความถี่ในการสื่อสารด้วย หากใช้บ่อยเกินไป จนกลุ่มเป้าหมายรู้ทัน ก็จะไม่สามารถใช้เทคนิคนี้ได้อีกเลย อย่างไรก็ตามก่อนสื่อสารออกไปต้องวางแผนให้รอบคอบเสียก่อน

5.ลำดับความสำคัญข้อความ

เทคนิคการเขียนโฆษณาอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องใส่ใจก็คือการลำดับความสำคัญบนสื่อโฆษณานั้น เป็นเรื่องที่กลายเป็นปัญหาในหลายๆ ครั้ง เมื่อต้องสื่อสารหลายข้อความในภาพเดียวแล้วไม่รู้ว่าอันไหนจะต้องใหญ่ที่สุด อันไหนควรเล็กรองลงมา ดังนั้นจะต้องลำดับความสำคัญให้ดี หากข้อความบนภาพมีสัก 2 ข้อความ ให้เลือกข้อความที่คิดว่าคนสนใจมากที่สุดให้เป็นความสำคัญอันดับ 1 อย่าเลือกที่ตัวเองต้องการบอกที่สุด เพราะสิ่งที่แบรนด์อยากบอกอาจไม่ใช่สิ่งที่คนสนใจมากที่สุดก็ได้ 

เป็นต้นว่าหากมีข้อความ 3 ข้อความ ได้แก่ 1.ไดร์เป่าผมลด 50% 2.รีบซื้อเลย 3.999 บาท ด้วยความที่แบรนด์อยากขายของ อาจจะเลือกคำว่ารีบซื้อเลยใหญ่สุด แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าอยากรู้ที่สุด แม้แต่คำว่าไดร์เป่าผมลด 50% ลูกค้าก็อาจไม่ได้อยากรู้ที่สุด เพราะสิ่งที่อยากรู้คือ 999 บาทต่างหาก ดังนั้นทางที่ดีควรให้ 999 บาท ใหญ่สุดเพื่อดึงความสนใจ จากนั้นกลุ่มเป้าหมายจะอ่านข้อความอื่นๆ ต่อไปเอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย เพราะบางครั้งราคาก็อาจไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มเป้าหมายอยากรู้มากที่สุดเช่นกัน 

6.อย่าใส่ข้อความทั้งหมด คัดสรรเฉพาะข้อความสำคัญ

อีกหนึ่งปัญหาที่นักการตลาดมักเจอคือต้องการสื่อสารข้อความหลายอย่าง โน่นก็อยากใส่ นี่ก็อยากใส่ จนสุดท้ายข้อความอัดแน่นในภาพจนเยอะเกินและไม่ดึงความสนใจ เทคนิคการเขียนโฆษณาถัดมาคือการคัดสรรข้อความที่สำคัญและดึงความสนใจจริงๆ มาใส่ไว้ สั้นๆ กระชับแต่ได้ใจความ จากนั้นทิ้งปุ่ม “อ่านเพิ่มเติม” ไว้ เน้นให้คนคลิก แล้วไปอ่านต่อ 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการเขียนโฆษณา เน้นให้คนคลิกอ่าน ไม่ปล่อยผ่านไป จำเป็นต้องนำไปปรับใช้ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนเห็นโฆษณาบน Social media ที่มักจะเลื่อนผ่านอยู่เสมอ จะต้องทำให้คนหยุดอ่านและคลิกต่อให้ได้