เป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งในการทำเว็บไซต์ของธุรกิจประเภทใดก็ตามย่อมคาดหวังให้มีผู้เยี่ยมชมเข้าถึงเนื้อหาที่สร้างขึ้นเยอะที่สุด เพราะนั่นบ่งบอกถึงโอกาสดี ๆ ที่ธุรกิจจะได้รับมากมาย ทั้งเรื่องสร้างการรับรู้ของแบรนด์ การเพิ่มยอดขาย และผลกำไร นั่นทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Clickbait” ขึ้น แต่เคยสงสัยกันหรือไม่แท้จริงแล้ว Clickbait คืออะไร ที่สำคัญควรทำมากน้อยแค่ไหน มาหาคำตอบทั้งหมดกันได้เลย

Clickbait คืออะไร

Clickbait คือ เทคนิคการทำหน้าเว็บไซต์ หน้าเพจ โพสต์ หรือหน้าคอนเทนต์ อีเมล์ SMS , Push notification โดยพยายามดึงดูดให้คนที่เห็นแบบผ่านตาต้องสะดุดกับสิ่งที่สร้างสรรค์ออกไปไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ พาดหัว การใช้ดีไซน์ตัวอักษร ใช้รูปภาพที่ทำเหมือนเป็นตัวเล่นวีดีโอ ฯลฯ และให้คนเหล่านั้นคลิกเข้ามาบนหน้าเว็บดังกล่าวเยอะที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจริงดันกลายเป็นเนื้อหาด้านในไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องการ ไม่ตรงกับการคาดหวัง หลอกลวง ข่าวปลอม ชวนไปทำภารกิจ จนเกิดความผิดหวังหรือเสียหายได้

หากอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นวิธีคลิกเบตก็เปรียบกับ “เหยื่อล่อ” ที่พยายามทำทุกวิถีทางให้คนทั่วไปที่เห็นแค่เนื้อหาเบื้องต้นต้องการกดเข้ามา จุดประสงค์หลักย่อมหนีไม่พ้นการเพิ่มยอดผู้ชม ยอด Reach ยอด Traffic สร้าง Engagement เพิ่มยอด CTR หรือ Click Through Rate (จะเรียกแบบไหนก็ตามสะดวก) โดยไม่สนใจว่าเนื้อหาแท้จริงเกี่ยวข้องกับอะไร มีสาระมากน้อยแค่ไหน

ย้อนรอยจุดเริ่มต้นของการทำ Clickbait

คนจำนวนมากอาจคิดว่าการทำ Clickbait เกิดขึ้นจากการทำเว็บไซต์บนโลกออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงวิธีนี้มีมาตั้งแต่ยุค 1888 ต้นกำเนิดคือสหรัฐอเมริกาในชื่อ “Yellow Journalism” หรือ สื่อสีเหลือง ซึ่งมักนำเอาข่าวไร้สาร ข่าวไม่มีมูลความจริงใด ๆ มาประกาศให้ผู้คนได้รับรู้ อาศัยการเขียนพาดหัวข่าวให้ตื่นเต้น แตกต่าง และสะดุดตา เทคนิคนี้จึงยังถูกใช้งานอย่างต่อเนื่องจนเข้าสู่ยุคที่บทความออนไลน์ครองเมืองแบบปัจจุบันนั่นเอง

ข้อดีของการทำ Clickbait

1. การทำอันดับ SEO

ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้อดีหลักของการทำ Clickbait จะช่วยสร้างปริมาณ Traffic หรือยอดผู้เข้าถึงหน้าเว็บไซต์ได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว การทำอันดับ SEO ในหัวข้อนี้เว็บจึงได้คะแนนจาก Google สูงมาก หากเทียบกับเว็บทั่วไปที่ไม่ได้สร้างคอนเทนต์ลักษณะดังกล่าว การติดอันดับรวดเร็ว ตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ภายในเวลาสั้น ๆ

2. เพิ่มรายได้ให้กับเว็บไซต์

นอกจากการทำ SEO แล้ว หากสร้างคอนเทนต์ประเภท Clickbait ยังช่วยในเรื่องของการเพิ่มรายได้ให้เว็บไซต์ หมายถึง เว็บของคุณจะได้รับค่าโฆษณาบางส่วนเป็นรายได้เมื่อใช้งาน Google Adsense ของทาง Google หรือ Instant Article ของ Facebook จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากเว็บไซต์จำนวนไม่น้อยมักถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเอาไว้หาเงินด้วยวิธีนี้

ข้อเสียของการทำ Clickbait

เมื่อมีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียตามมาเป็นเรื่องปกติ แม้เบื้องต้นการทำ Clickbait จะช่วยให้การทำอันดับ SEO ของเว็บเป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่อย่างที่บอกไปว่านี่เป็นเทคนิคแบบระยะสั้นเท่านั้น หากลองเทียบตัวคุณเองกดเข้าไปหน้าเว็บหนึ่งด้วยการพาดหัวสุดดึงดูด แต่เนื้อหาข้างในจริง ๆ กลับไม่มีอะไรน่าสนใจ แถมมีเรื่องที่พาดหัวอยู่เพียงแค่ 2 บรรทัด ภาพจำของเว็บดังกล่าวมักถูกมองแบบติดลบทันที นอกจากโอกาสการคลิกของผู้เยี่ยมชมคนเดิมบนหน้าคอนเทนต์ถัดไปจะเกิดขึ้นน้อย แบรนด์ถูกจดจำด้านไม่ดี ยอดขาย ผลกำไรผ่านช่องทางนี้ก็น้อยลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

ตัวอย่างข้อความที่มักพบเจอในการทำ Clickbait

หากใครอยากลองนำเอาข้อความต่าง ๆ ที่นิยมใช้ในการ Clickbait มาปรับให้เหมาะกับคอนเทนต์ของตนเองแล้วสร้างผลลัพธ์ที่ดีนั่นคือ ทั้งการพาดหัวน่าสนใจ น่าดึงดูด แถมเนื้อหาข้างในก็ยังน่าอ่าน ตอบโจทย์สิ่งที่ผู้เยี่ยมชมสงสัยได้ชัดเจนก็เป็นเทคนิคที่ทุกคนใช้งานได้ ตัวอย่างของการพาดหัวที่มักพบเจอบ่อย ๆ และรู้ได้ทันทีว่านี่มีโอกาสเป็นการคลิกเบตแน่ ๆ เช่น

  • อึ้ง!
  • ทึ่ง!
  • ด่วนที่สุด!
  • นี่คือสิ่งที่ชายคนนี้ / หญิงคนนี้ทำ
  • คุณต้องไม่เชื่อแน่!
  • เพียงแค่ลองทำสิ่งนี้คุณจะ…
  • ช็อกโลก!
  • ผลการทดลองยืนยัน
  • คลิกอ่านแล้วจะโชคดี
  • คุณได้รับฟรี
  • สะเทือน!
  • มีคลิป
  • วีดีโอโฆษณาเกมส์ที่น่าเล่น แต่คลิกจะติดตั้งแอปเกมส์ เป็นคนละเกมส์กัน

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้แม้บอกว่าสามารถปรับใช้กับคอนเทนต์ทั่วไปได้ แต่ก็ต้องคอยระวังอย่าใช้คำใกล้เคียงกับความสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นเนื้อหา Clickbait มากเกินไป เพราะคนสมัยใหม่มักหลีกเลี่ยง แถมพวกเขายังรู้สึกว่าเว็บแบบนี้อาจมีการซ่อนมัลแวร์เอาไว้อีกต่างหาก

สรุปแล้วเว็บไซต์ควรทำ Clickbait หรือไม่?

แม้คำอธิบายโดยรวมอาจถูกมองว่าการทำ Clickbait มีข้อเสียในหลายด้าน แต่การจะบอกว่าอย่าทำคงไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องนัก ไม่เช่นนั้นกลยุทธ์ดังกล่าวคงไม่ได้รับความนิยมต่อเนื่องเช่นนี้ จึงต้องประเมินจากวัตถุประสงค์ของคุณในการสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาสักเว็บว่าต้องการอะไร เป้าหมายระยะสั้น กลาง ยาว เป็นแบบไหน หรือมีการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะกับเทรนด์ผู้บริโภคมากน้อยเพียงใด รวมถึงยังสามารถนำมาปรับใช้กับการทำคอนเทนต์ทั่วไปได้ด้วย เพียงแค่ต้องเพิ่มเติมความแตกต่างและลูกเล่นไม่ให้คล้ายกันมาก

สรุป

การทำ Clickbait ยังคงเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปบนโลกออนไลน์ หลักการคือพยายามพาดหัวให้น่าสนใจ กระตุ้นความรู้สึกดึงดูดให้คนอยากคลิกเข้ามา แต่เนื้อหาข้างในกลับไม่มีอะไรน่าสนใจเลย แต่ในอีกด้านหนึ่งกลยุทธ์นี้ก็ยังปรับใช้กับแผนการตลาดบางประเภทได้ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของธุรกิจหรือเว็บไซต์ จึงต้องมีการวางแผนให้ชัดเจน เปรียบเทียบผลดี-ผลเสียที่มีสิทธิ์เกิดขึ้น