ด้วยโลกทุกวันนี้ต้องอาศัยอินเทอร์เน็ตพร้อมการเชื่อมต่ออันแสนรวดเร็วของระบบต่าง ๆ เพื่อให้ทุกอย่างสามารถเดินไปข้างหน้า การทำธุรกิจ การใช้ชีวิตทุกวันจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ ยิ่งถ้าธุรกิจก้าวเข้าสู่โลกออนไลน์แบบเต็มตัวอีกเรื่องที่ควรทำความรู้จักเอาไว้นั่นคือ Content Delivery Network (CDN) ซึ่งใครที่อาจยังมีข้อสงสัยว่า Content Delivery Network (CDN) คืออะไร สำคัญมากขนาดไหน มาทำความเข้าใจและศึกษาข้อมูลพร้อมกันเลย

Content Delivery Network (CDN) คืออะไร

Content Delivery Network หรือ CDN คือ เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อเพื่อให้เกิดการทำงานได้อย่างรวดเร็วโดยเฉพาะการดาวน์โหลดข้อมูลหน้าเว็บ รวมถึงส่งข้อมูลแสดงผลลัพธ์ไปยังหน้าจอของผู้ที่กำลังใช้งานอินเทอร์เน็ต ช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่ดีมากขึ้น

หากอธิบายแบบเข้าใจง่ายเมื่อมีใครสักคนคลิกเข้าไปยังหน้าเว็บไซต์หนึ่ง ข้อมูลที่อยู่บนเซิร์ฟเวอร์เว็บดังกล่าวจะเคลื่อนตัวผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ตเพื่อไปให้ถึงหน้าจอคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ ของผู้ที่กดเข้ามา หากคนที่ใช้งานอยู่ไกลจากเซิร์ฟเวอร์การประมวลและการแสดงผลก็ย่อมช้าลงเป็นเรื่องปกติเมื่อต้องดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ เช่น รูปภาพ คลิปวิดีโอ ในอีกมุมหนึ่งหากเจ้าของเว็บมีการเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้กับผู้ใช้งานคนนั้น ๆ (ตามหลักภูมิศาสตร์) ข้อมูลก็มีสิทธิ์ไปถึงปลายทางได้เร็วกว่าเช่นกัน

ภาพจาก meduim

ความสำคัญของ Content Delivery Network (CDN)

อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่าเมื่อโลกของเราขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต ความเร็วจึงเป็นสิ่งที่ต้องแข่งขันกัน ใครไวกว่าก็มีสิทธิ์เป็นผู้ชนะเหมือนกับวลี “ปลาเร็วกินปลาช้า” ดังนั้นความสำคัญของการมี Content Delivery Network (CDN) ที่ดีจะช่วยลดความล่าช้าหรือลดการใช้เวลาแฝงระหว่างการสื่อสารที่กำลังเกิดขึ้นบนเครือข่ายได้เป็นอย่างดี

ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตปัจจุบันครอบคลุมการทำงานได้ทั่วโลกบวกกับมีความซับซ้อนสูงมาก การรับส่งข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์แต่ละแห่งระหว่างตัวเว็บไซต์ (เซิร์ฟเวอร์) กับตัวผู้ใช้งานจึงมีระยะทางไกลขึ้น บวกกับนี่คือรูปแบบการสื่อสารแบบ 2 ทาง หมายถึง คำขอการเข้าชมกำลังเดินทางจากผู้ใช้ไปยังเซิร์ฟเวอร์ และเซิร์ฟเวอร์ได้ตอบกลับและกำลังเดินทางกลับมายังผู้ใช้ หากเว็บไหนทำงานได้เร็วกว่าย่อมสร้างความประทับใจ ความพึงพอใจได้นั่นเอง

ประโยชน์สำคัญของการใช้งาน Content Delivery Network (CDN)

1. เพิ่มความเร็วให้กับหน้าเว็บไซต์

หลายคนคงเคยเจอปัญหาเวลาเข้าเว็บไซต์พร้อม ๆ กันแล้วเกิดอาการค้าง ดาวน์โหลดหน้าเว็บไม่ขึ้น และอีกสารพัด การใช้ Content Delivery Network (CDN) จึงช่วยจัดการกับเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างดี การส่งข้อมูลและการตอบกลับยังคงเดินหน้าได้แบบเต็มประสิทธิภาพ ลดอาการ Work Load ของเซิร์ฟเวอร์ หรือในกรณีที่ CDN สักตัวหนึ่งออฟไลน์เซิร์ฟเวอร์อื่นก็ยังทำหน้าที่แทน หมดกังวลหน้าเว็บหยุดการทำงานได้ดี

2. ลดค่าใช้จ่าย Bandwidth

Bandwidth (แบนด์วิดท์) คือ การคำนวณจำนวนในการรับ-ส่งข้อมูลจากจากจุดเริ่มต้นไปยังอีกจุดผ่านการเชื่อมต่อของเครือข่ายอินเทอร์เน็ต หากเทียบง่าย ๆ ก็ไม่ต่างจากท่อน้ำในการส่งข้อมูล หากเว็บไซต์มีปริมาณข้อมูลเยอะการใช้ Bandwidth ก็สูง ส่งผลเรื่องค่าใช้จ่ายแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ ด้วยเหตุนี้การนำเอา CDN เข้ามาช่วยรับ-ส่งข้อมูลจึงลดต้นทุนในเรื่องนี้ได้เช่นกัน

3. สร้างความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์

Distributed Denial-of-Service (DDoS) เป็นการโจมตีออนไลน์ประเภทหนึ่งที่จะพยายามหยุดเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันไม่ให้ทำงานโดยทำการส่งข้อมูลปลอมจำนวนมากเข้ามาแทน ตรงจุดนี้เองที่ Content Delivery Network (CDN) จะทำการกระจาย Work Load เพื่อจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาลระหว่างตัวกลางเซิร์ฟเวอร์หลายตัว เพื่อเป็นการลดความเสียหายจากเซิร์ฟเวอร์ต้นทาง

4. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้

เมื่อเว็บของคุณสามารถดาวน์โหลดได้รวดเร็ว คลิกเข้าไปหน้าต่าง ๆ ภายในเวลาไม่กี่วินาที ยอด Bounce Rate น่าประทับใจ จำนวน Traffic ที่เข้ามาก็เพิ่มขึ้น ผู้ใช้งานรู้สึกประทับใจ อยากคลิกเข้ามาอยู่ตลอด ซึ่งตรงจุดนี้นอกจากช่วยให้มี Impression ที่ดีแล้ว ยังส่งผลเชิงบวกต่อการทำ SEO การยิง Google Ads รวมถึงการกระตุ้นยอดขายด้วยวิธีอื่น ๆ อีกด้วย

คำแนะนำในการใช้งาน Content Delivery Network (CDN)

เมื่อใช้งาน Content Delivery Network (CDN) คุณสามารถอัปโหลดเนื้อหาที่มีปริมาณข้อมูลหนัก ๆ ได้ไม่ยาก เช่น รูปภาพ คลิปวิดีโอ และยังสามารถปรับการทำงานของเว็บให้รองรับกับทุกแพลตฟอร์มที่เข้ามาเยี่ยมชมทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ แบบไม่ต้องกังวลใจอะไรทั้งสิ้น ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บด้วยการใส่สินค้า / บริการต่าง ๆ และทำการขายผ่านหน้าเว็บโดยตรง หรือบางธุรกิจจะใช้เป็นช่องทางในการสตรีมมิ่งก็ดำเนินการได้ทันที ไม่ต้องห่วงเรื่องปัญหาติดขัด ดังนั้นจึงอธิบายได้ว่าการใช้ CDN ไม่ว่าในมุมไหนก็ดีต่อเว็บไซต์และธุรกิจอย่างแน่นอน

แนะนำ 10 ผู้ให้บริการ CDN ระดับโลก

  1. Cloudflare CDN
  2. Amazon CloudFront
  3. Google Cloud CDN
  4. Microsoft Azure Content Delivery Network
  5. Sucuri
  6. KeyCDN
  7. Bunny
  8. CacheFly
  9. Rackspace
  10. Akamai

สรุป

Content Delivery Network (CDN) อีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์สามารถสร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อธุรกิจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะความเร็วของเนื้อหาที่ผู้เยี่ยมชมคลิกเข้าไปแล้วหน้าเว็บทำการดาวน์โหลด ช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดี และยังสานต่อไปถึงโอกาสในการเติบโตทั้งเรื่องยอดขาย การทำ SEO การยิง Google Ads และอีกสารพัด คุณสามารถปรับหน้าเว็บไซต์ให้มีลูกเล่นอื่นเพิ่มเติม เช่น การสตรีมมิ่ง การลงคลิปวิดีโอ การเพิ่มปริมาณสินค้า / บริการ ฯลฯ นี่จึงเป็นสิ่งที่ควรศึกษาเอาไว้เลย