การเลือกใช้ช่องทาง Digital Marketing ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ หรือ Social Media ก็ตาม ทุกโพสต์ ทุกแคมเปญที่ธุรกิจเลือกทำย่อมคาดหวังถึงผลลัพธ์เชิงบวกให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ซึ่งสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “Impression” เป็นอีกสถิติตัวเลขที่มีความน่าสนใจ และยังช่วยบ่งบอกแนวทางที่เหมาะสมว่าควรวางแผนด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์แบบไหนต่อ แล้ว Impression คืออะไร มีความสำคัญต่อโลกการตลาดดิจิทัลขนาดไหน มาหาข้อมูลกันเลย

Impression คืออะไร

Impression คือ จำนวนครั้งที่เนื้อหาคอนเทนต์ หรือโฆษณาที่คุณลงไว้บนช่องทางออนไลน์ถูกแสดงขึ้นมาไม่ว่าจะอยู่บนหน้าเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือบน Social Media ก็ตาม โดยตัวเลขสถิติที่ระบุจะไม่ได้สนใจว่าเนื้อหาดังกล่าวมีคนมองเห็น กดเข้าชมหรือไม่ก็นับเป็น 1 Impression ไปจนถึงเนื้อหาเดิมถูกแสดงขึ้นใหม่ มีผู้รับชมคนเดิมกดเข้าไปดูซ้ำอีกครั้งก็จะนับเป็น 1 Impression เช่นกัน จึงสรุปได้ว่ายิ่งเนื้อหาที่คุณลงปรากฏบนหน้าเว็บ หน้า Social Media บ่อยเท่าไหร่ จำนวน Impression ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น

ดังนั้นถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายมากขึ้นทุก ๆ 1 Impression จะเกิดจากการที่เนื้อหาปรากฏไม่ว่าจะมีคนเห็น มีคนคลิกรับชมหรือไม่ก็ตาม และแม้จะเป็นคนเดิมกดซ้ำเข้าไปดู แต่ถ้าเนื้อหาดังกล่าวเป็นการปรากฏขึ้นครั้งใหม่ก็นับ 1 Impression

ตัวอย่างเช่น นาย A เปิด Facebook ขึ้นมาแล้วเห็นโฆษณาของคุณครั้งแรก แม้ยังไม่กดเข้าไปดูก็นับ 1 Impression จากนั้นเขาเลื่อนเข้าไปหน้าโพสต์ หน้าเพจอื่นเรื่อย ๆ เมื่อเปิดหน้า Home ของ Facebook อีกรอบ เขาก็เห็นโฆษณาเดิมของคุณอีก ไม่ว่า นาย A จะกดเข้าไปรับชมหรือไม่ก็ตาม เท่ากับได้อีก 1 Impression รวมเป็นได้จาก นาย A 2 Impression

ความแตกต่างระหว่าง Impression กับ Reach

คนที่ทำการตลาดออนไลน์โดยเฉพาะต้องรับหน้าที่ผลิตคอนเทนต์ ทำโฆษณา แล้วลงกับช่องทางต่าง ๆ จากนั้นก็นำตัวเลขสถิติมาวิเคราะห์มักพบเจอกับคำที่ใช้บ่งบอกสถิติดังกล่าวอยู่ 2 คำ ระหว่าง Impression กับ Reach ซึ่งความแตกต่างที่ชัดเจนโดยสรุปนั้น Reach จะเป็นตัวเลขจะคำนวณยอดออกมาเฉพาะคนที่เห็นเนื้อหาของคุณต่อ 1 คน หรือ 1 บัญชี เท่านั้น หากเขากดเข้ามาดูซ้ำในครั้งถัดไปด้วยบัญชีเดิมก็จะไม่นับตัวเลขดังกล่าว

ความสำคัญของ Impression ในการทำ Digital Marketing

1. บ่งบอกถึงความน่าสนใจของเนื้อหา

สถิติตัวเลขของ Impression จะบ่งบอกได้ชัดเจนว่าเนื้อหาคอนเทนต์ โฆษณาของคุณได้รับความสนใจมากน้อยแค่ไหน หากสถิติเพิ่มเยอะขึ้นเท่ากับคนที่เลื่อนผ่านแม้ไม่ทันได้สังเกตเห็นหรือคลิกเข้าชมก็มีสูง จนทำให้ระบบของเว็บที่คุณลงเนื้อหาไว้ดันโพสต์ ดันโฆษณา ให้คนกลุ่มดังกล่าวเห็นอยู่ตลอด

2. เพิ่มการรับรู้ของแบรนด์

เมื่อมีคนเห็นเนื้อหามากขึ้นเรื่อย ๆ แม้เขาไม่เคยคลิกเข้ารับชมมาก่อน แต่ส่วนใหญ่มักรู้สึกคุ้นชิน เห็นผ่านตาประจำ พอนึกถึงสินค้า / บริการที่คุณทำธุรกิจอยู่ ชื่อแบรนด์ของคุณจะผุดขึ้นมาอยู่ในความคิด ซึ่งคนเหล่านี้สามารถบอกต่อให้กับคนอื่นที่มีความสนใจได้อีกด้วย

3. เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย

เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อการรับรู้ของแบรนด์มากขึ้น ผู้คนที่พบเห็นเริ่มรู้สึกคุ้นชิน โอกาสที่พวกเขาอยากทดลองใช้สินค้า / บริการก็มีเพิ่มตามไปด้วย ยอดขายจึงมีสิทธิ์เพิ่มขึ้น และถ้าหากผลิตภัณฑ์น่าประทับใจนอกจากการซื้อซ้ำยังเกิดการบอกต่อ

4. ประเมินแนวโน้มการทำเนื้อหาในอนาคต

ค่า Impression ยังสามารถบ่งบอกแนวโน้มหรือกลยุทธ์ที่จะใช้สำหรับทำคอนเทนต์ ทำโฆษณาออนไลน์ในอนาคตได้ด้วย เช่น ถ้ามี Impression สูง แต่ค่า Reach ต่ำ ก็อาจบอกได้ว่าผู้รับชมเป็นแค่คนบางส่วน และอาจยังไม่ดึงดูดใจให้พวกเขาคลิกเข้าอ่านมากพอ

5. วิเคราะห์ต้นทุนกับความคุ้มค่า

ตัวเลขของ Impression ยังบ่งบอกถึงความคุ้มค่าของผลตอบแทนที่คุณลงทุนไปกับการทำโฆษณา หรือ ทำคอนเทนต์ลงบนเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้ เช่น ถ้าทำลง Facebook แล้วผลตอบรับไม่ดีก็อาจมีการปรับต้นทุนส่วนนี้เพื่อใช้ในการลงผ่านเว็บไซต์แทน

รู้จักกับประเภทของ Impression

1. Served Impression

ตัวเลขนี้จะระบุจำนวนครั้งที่โพสต์มีการถูกส่งให้ผู้รับชมได้เห็นโดยไม่ต้องสนใจว่ามีใครเห็นจริงหรือแค่เลื่อนผ่าน จุดประสงค์หลักของสถิติที่ได้มักนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพเบื้องต้นของตัวแคมเปญแบบกว้าง ๆ ว่าสามารถเข้าถึงผู้คนได้มากน้อยแค่ไหน

2. Viewable Impression

อีกประเภทของ Impression ซึ่งจะแสดงตัวเลขเมื่อคนพบเจอโพสต์ของคุณแล้วมีการเข้าถึงจริงมากน้อยแค่ไหน เสมือนเป็นการวัดประสิทธิภาพแคมเปญอย่างแท้จริงคล้ายกับ Reach แต่คนเดิมสามารถดูซ้ำแล้วนับคะแนนได้ สามารถนำเอาตัวเลขไปใช้วิเคราะห์เพื่อสร้างแคมเปญใหม่ให้เกิดความแม่นยำต่อกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

สรุป

Impression เป็นตัวเลขสถิติที่สามารถบ่งบอกความสำเร็จแคมเปญของแบรนด์ที่ทำบน Digital Marketing ได้ในระดับหนึ่ง หากมีตัวเลขสูงอย่างน้อยก็บ่งบอกได้ว่าแคมเปญนั้น ๆ มีคนผ่านตาเยอะ ซึ่งบางส่วนก็อาจคลิกเข้ารับชมต่อได้ สร้างแนวทางที่เหมาะสมสำหรับพัฒนาเนื้อหาครั้งถัดไปให้ดีขึ้น มากไปกว่านั้นยังสร้างการจดจำแบรนด์ที่มีต่อผู้คน และยังเพิ่มโอกาสสร้างยอดขายในอนาคตได้อีกด้วย