BANDWIDTH คืออะไร เรื่องต้องรู้ก่อนลงมือทำเว็บไซต์ของตัวเอง!
BANDWIDTH คืออะไร อีกหนึ่งเรื่องที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องทำความเข้าใจ เพื่อเลือกใช้งานให้เหมาะสม หากมองข้ามเรื่องนี้ไป จะทำให้เว็บไซต์ขาดประสิทธิภาพ ไม่สามารถดาวน์โหลดได้อย่างราบรื่น อาจเกิดการผิดพลาดในระหว่างเข้าใช้งาน ดังนั้นเจ้าของเว็บไซต์ทุกคนต้องเรียนรู้ข้อมูลส่วนนี้ไว้ให้ดี
BANDWIDTH คืออะไร?
Bandwidth คือ ตัวกลางที่ใช้ในการส่งข้อมูล มาจาก 2 คำประกอบกัน ได้แก่ Band ที่หมายถึง คลื่นความถี่ และ Width ที่หมายถึงความกว้าง เมื่อทั้ง 2 คำมารวมกันแล้ว จึงหมายถึง ความกว้างของคลื่นความถี่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความเร็วในการรับส่งข้อมูลระหว่างกัน ยิ่งค่าของ Bandwidth สูงเท่าไร ก็จะยิ่งส่งข้อมูลได้เร็วเท่านั้น เปรียบเทียบได้กับท่อปะปา ที่ยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไรก็จะยิ่งส่งน้ำได้มากขึ้นเท่านั้น
Bandwidth เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญกับคนที่คิดจะทำเว็บไซต์ แบบไม่ควรมองข้าม ถ้าหากต้องการให้เว็บไซต์ของตัวเอง รองรับการเข้าถึงได้อย่างลงตัว เพราะถ้าหากมองข้ามเรื่องนี้ไป การรับส่งข้อมูลอาจติดขัดและขาดประสิทธิภาพ ทำให้ผู้ใช้งานประสบปัญหา
การจัดการ BANDWIDTH ที่เหมาะสม
เจ้าของเว็บไซต์จะต้องมีการจัดการ Bandwidth ที่เหมาะสม เพื่อให้การรับส่งข้อมูลนั้นราบรื่นไม่สะดุดหรือติดขัด นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน การจัดการ Bandwidth คือการที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องเลือกใช้บริการเช่าโฮสติ้งที่มีปริมาณ Bandwidth เหมาะสมกับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์
เรื่องนี้สำคัญมาก เนื่องจากปัญหาใหญ่เลยที่พบจากคนที่กำลังจะสร้างเว็บไซต์ของตัวเอง แต่ไม่เข้าใจในเรื่องของ Bandwidth ก็จะไม่ได้คำนวณเรื่องนี้ และอาจเลือกผู้ให้บริการเช่าโฮสติ้งที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว และมองข้ามเรื่องขนาดของ Bandwidth ไป ทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้
ขนาดที่เหมาะสมของ BANDWIDTH คืออะไร?
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่าการจะสร้างเว็บไซต์ขึ้นมา จะต้องเลือกใช้ Bandwidth ที่เหมาะสม คราวนี้คำถามต่อมาก็คือแล้ว Bandwidth ที่เหมาะสมคืออะไร พิจารณาอย่างไร ไปดูพร้อมๆ กันเลย ซึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาเพื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมของ Bandwidth คือ
1.จำนวนผู้เข้าชมต่อเดือน
สิ่งที่ต้องนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อเลือกขนาด Bandwidth คือ จำนวนผู้เข้าชมต่อเดือน กรณีที่เคยทำเว็บไซต์เอาไว้อยู่แล้ว เมื่อต้องการเลือกใช้บริการ Bandwidth จะต้องนำจำนวนผู้เข้าชมต่อเดือนมาคำนวณร่วมด้วย เพื่อเลือกขนาด Bandwidth ให้เหมาะสม ยิ่งมีจำนวนผู้เข้าใช้มากเท่าไร ก็ยิ่งควรเลือกใช้ Bandwidth ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ให้สามารถรองรับจำนวนคนที่เข้าชมเว็บไซต์ต่อเดือนได้อย่างพอดิบพอดี
2.จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อวัน
นอกจากการนำจำนวนผู้เข้าชมต่อเดือนมาคำนวณร่วมด้วยแล้ว ควรนำจำนวนผู้เข้าชมต่อวันมาคำนวณร่วมด้วย โดยให้คิดค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ชมต่อวันมาก่อน แล้วนำมาคำนวณร่วมกับจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ต่อเดือน เพื่อเลือกใช้ Bandwidth ในขนาดที่เหมาะสม
3.ขนาดหน้าเว็บไซต์โดยเฉลี่ย
ขนาดหน้าเว็บไซต์ก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าองค์ประกอบอื่นในการนำมาคำนวณร่วมเพื่อพิจารณาเลือกขนาด Bandwidth คือถ้ายิ่งขนาดเว็บไซต์ใหญ่เท่าไร ขนาดของ Bandwidth ก็ต้องใหญ่ตามไปด้วยเช่นกัน เพราะขนาดเว็บไซต์ที่ใหญ่ จะยิ่งต้องใช้เวลาในการโหลดข้อมูลนานขึ้น หากขนาด Bandwidth ไม่เพียงพอหรือไม่รองรับ ก็จะทำให้หน้าเว็บโหลดนานหรืออาจจะโหลดไม่สำเร็จไปเลย รวมถึงอัตราการล่มของเว็บ และอื่นๆ ซึ่งส่งผลในแง่ลบ จึงต้องนำขนาดเว็บไซต์มาคำนวณร่วมด้วย แต่ถ้าหากอยากประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของขนาด Bandwidth อาจลดขนาดของเว็บไซต์ลงได้ โดยการตัดข้อมูลที่คิดว่าไม่จำเป็นทิ้งไป
4.จำนวนดาวน์โหลดต่อวันโดยเฉลี่ย
กรณีนี้ใช้พิจารณาเมื่อเว็บไซต์นั้นให้บริการดาวน์โหลดด้วย โดยจะต้องนำจำนวนดาวน์โหลดต่อวันโดยเฉลี่ยไปคำนวณร่วมด้วย เมื่อต้องการเลือกขนาด Bandwidth สำหรับเว็บไซต์ที่เปิดให้บริกาดาวน์โหลด มักต้องใช้ Bandwidth ขนาดใหญ่กว่าเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเพียงอย่างเดียวเสมอ เพราะในการดาวน์โหลดแต่ละครั้งจะต้องใช้ปริมาณการรับส่งข้อมูลที่สูงกว่าหน้าเว็บไซต์ทั่วไป
5.ขนาดไฟล์โดยเฉลี่ย
อีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย เมื่อต้องเลือกขนาด Bandwidth คือขนาดไฟล์เฉลี่ย โดยในส่วนนี้ยังคงเป็นสิ่งที่พิจารณาเฉพาะเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลดเท่านั้น หากเป็นเว็บไซต์ที่ไม่ได้ให้บริการดาวน์โหลด ไม่ต้องนำส่วนนี้มาวิเคราะห์ ยกตัวอย่างถ้าหากเป็นเว็บที่ให้บริการดาวน์โหลดเพลง ขนาดไฟล์เฉลี่ยก็จะอยู่ที่ประมาณ 3-4 MB เว็บที่ให้บริการดาวน์โหลดภาพยนตร์ขนาดไฟล์เฉลี่ยก็จะอยู่ที่ประมาณ 40 GB เป็นต้น
สูตรการคำนวณเลือกขนาด BANDWIDTH
กรณีเว็บไซต์ให้ข้อมูลธรรมดา
คำนวณได้จาก
(จำนวนผู้เข้าชมต่อเดือน) x (ขนาดหน้าเว็บไซต์โดยเฉลี่ย) x (จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อวัน) x (จำนวนวันใน 1 เดือน) x (ปัจจัยซ้ำซ้อนโดยมีค่าตั้งแต่ 1.3-1.8)
กรณีเว็บไซต์ที่ให้บริการดาวน์โหลด
คำนวณได้จาก
(จำนวนหน้าเว็บเฉลี่ยที่ถูกเข้าชม x ขนาดหน้าเว็บโดยเฉลี่ย x จำนวนผู้เข้าชมเฉลี่ยต่อวัน) + (จำนวนดาวน์โหลดต่อวันโดยเฉลี่ย x ขนาดไฟล์โดยเฉลี่ย) x (จำนวนวันใน 1 เดือน) x (ปัจจัยที่ซ้ำซ้อนโดยมีค่าตั้งแต่ 1.3-1.8)
การเลือกใช้โฮสติ้งให้เหมาะกับขนาด Bandwidth
แนะนำว่าควรเช่าโฮสติ้งที่มีปริมาณ Bandwidth มากกว่า 40 เท่าของพื้นที่ที่เช่าโฮสติ้ง เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นภายหลัง หากมีขนาดที่น้อยกว่านี้ จะเกิดปัญหากับผู้ใช้งานในระหว่างดาวน์โหลดหน้าเว็บ ยิ่งถ้าหากมีการเข้าใช้งานจำนวนมาก ยิ่งทำให้เกิดการผิดพลาดในระหว่างใช้งาน ทั้งยังส่งผลให้เว็บล่มอีกด้วย
คาดว่าหลายๆ คนน่าจะพอเข้าใจแล้วว่า Bandwidth คืออะไร สำหรับใครก็ตามที่กำลังจะสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี และเลือกใช้บริการให้เหมาะสม เพราะสำคัญมากกับการทำเว็บไซต์แบบที่ไม่ควรมองข้ามโดยเเด็ดขาด