Cloudflare คืออะไร

บทความนี้จะเน้นให้คนธรรมดาที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ เข้าใจถึง Cloudflare ว่าคืออะไร คลาวแฟร์ คือ ผู้ให้บริการระบบ Network เครือข่ายข้อมูลที่ใหญ่ที่สุดในโลก และให้ทุกคนที่มีเว็บสามารถใช้งานได้ฟรี และมีแบบเสียเงิน ประโยชน์หลักๆที่มักใช้กันบ่อยคือ ใช้ทำ HTTPS เพิ่มความเร็ว ทำ Caching และ เพิ่มความปลอดภัย เหมือนเป็นกำแพงด่านหน้าชั้นดีให้กับเว็บไซต์และเซิฟเวอร์ของเราครับ

Cloudflare ทำงานอย่างไร

Cloudflare จะมาเป็นกำแพงด่านหน้าให้กับ เซิฟเวอร์ตัวจริงของเว็บไซต์เรา ปกป้อง Hacker ผู้ไม่ประสงค์ดีต่างๆ (Malicious Traffic)

โดยปกติ สมมติเราเช่า Host ในประเทศไทย หากมีผู้ใช้งานเว็บที่อยู่ต่างประเทศจะเข้าใช้งานเว็บเรา การเข้าถึงข้อมูลจะทำได้ช้า แต่ Cloudflare ซึ่งมีเซิฟเวอร์ทั่วโลก ได้แก้ปัญหานี้ให้เราฟรีๆ ซึ่ง Cloudflare มีศูนย์กลางข้อมูลกระจายตัวอยู่ 310 ตำแหน่งทั่วโลกกว่า 120 ประเทศ จึงช่วยให้ผู้คนเปิดหน้าเว็บได้เร็วขึ้น ข้อมูลอัพเดท Cloudflare 2023 Year in Review ผู้ใช้งานแทบจะทุกฟีเจอร์เยอะขึ้นจากปีก่อน

ประโยชน์ของ Cloudflare มีอะไรบ้าง

  • 1. ใช้งานได้ฟรี และตั้งค่าง่าย (สำหรับ Programmer)
  • 2. มีระบบสถิติคนใช้งานเว็บไซต์ รายงานฟรี
  • 3. ซ่อน IP Server จริงของเรา
  • 4. เป็น CDN เปิดเข้าเว็บจากทุกที่ทั่วโลกได้เร็วขึ้น
  • 5. มีระบบเพิ่มความเร็ว (Speed) , ระบบ Caching ช่วยเรื่องความเร็วเว็บไซต์เป็นหลัก
  • 6. HTTPS ฟรี เว็บเขียวตลอดการใช้งาน
  • 7. มี DNS Server เราสามารถกำหนด DNS Records ให้กับโดเมนหรือ sub domain ที่เราต้องการได้ครบทุกชนิด
  • 8. ปลอดภัย Cloudflare มีตั้งค่าหลายอย่างที่เกี่ยวกับความปลอดภัย เช่น WAF, IP Allow, Country Block, Rate Limit ใช้อนุญาตหรือปฏิเสธการให้เข้าถึงเว็บไซต์เรา สามารถกำหนด By URL หรือเป็น Regular Expression ได้ และกำหนดจำนวนการ Request หน้าเว็บต่อวินาที ที่จะบล็อคได้
  • 9. ช่วยเรารับมือกับการโจมตีประเภท DDos Attack ได้ด้วย
  • 10. ทำ 301 Redirect ได้ง่ายๆ ที่ Page Rule ใช้ฟรี 3 ชุดการทำงาน
  • 11. Feature แบบเสียเงิน (Pro) จะมีบริการสำหรับเรื่องรูปภาพ Image ทั้งการ Resize, การทำรูปภาพสกุล WebP การใช้ Premium Network ที่เรียกว่า “Argo Smart Routing” เราจะไม่ใช้เส้นทางปะปนกับผู้ใช้ฟรี หรือจะเป็นเรื่อง Rate Limit บล็อคการใช้งานต่างๆ
  • 12. Cloudflare Enterprise สำหรับบริษัทขนาดใหญ่ มี Premium Feature เช่น Dedicated Support 24/7 เกิดปัญหาอะไรมีทีมซัพพอรต์ผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาช่วยเหลือ หรือจะเป็น China Network เพิ่มความไวบริการสู่ผู้ใช้งานประเทศจีน และ Raw Logs เก็บล็อคลงลึกได้มากยิ่งขึ้น
  • 13. อื่นๆ อีกมากมาย

วิธีสมัครและใช้งาน Cloudflare

  1. ไปที่เว็บ Cloudflare แล้วคลิก Sign Up เพื่อสมัครใช้งาน
  2. พิมพ์ชื่อโดเมนที่ต้องการเชื่อมต่อ Cloudflare ลงไป
  3. เลือกแพคเกจที่เป็นตัวฟรี แล้วคลิก Continue
  4. เปลี่ยน DNS Name server เอาชื่อ NS ที่ได้จาก Cloudflare นำไปเปลี่ยนที่ผู้ให้บริการจดโดเมน ยกตัวอย่างของ GoDaddy
  5. พอถึงหน้า Quick Start Guide จะทำการตั้งค่าเบื้องต้น หรือ เลือก Finish Later สำหรับทำในภายหลัง
  6. ทำ HTTPS คลิกที่หัวข้อ SSL เลือกรูปแบบ Flexible เป็นการตั้งค่าอย่างง่ายที่สุดและใช้มากที่สุด เพราะโดยเราไม่ต้องติดตั้งอะไรบน Server ก็ทำให้เว็บไซต์เป็น HTTPS ได้ แต่อย่างไรก็ตาม Traffic ระหว่าง Cloudflare กับ Server เราจะไม่ถูกเข้ารหัส ส่วนรูปแบบอื่น เช่น Full หรือ Full (strict) เราจะต้องซื้อ SSL certificate รายปี หรือสร้างโดยใช้ Let’s Encrypt และมีการใส่ข้อมูลเพื่อให้ Cloudflare ตรวจสอบ (Validate) ในกรณีเป็น Full (strict)
    จากนั้นตั้งค่า Always Use HTTPS เพื่อทำให้เด้งมา HTTPS อัตโนมัติ หากมีการเข้าเป็น HTTP
  7. ตั้งค่า Speed > Auto Minify เพื่อให้บีบอัดลดขนาดไฟล์โค้ดต่างๆ เพิ่มความเร็วเว็บไซต์ เบื้องต้น
  8. ตั้งค่า Cache เพิ่มระยะเวลาการเก็บ Cache
  9. ตั้งค่าอื่นๆเพิ่มเติม ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน

สรุป

เว็บสมัยใหม่ควรมีผู้ให้บริการด้าน Network เป็นกำแพงให้เราครับ นอกเหนือจาก Cloudflare ก็ยังมีเจ้าอื่น เช่น Sucuri เป็นต้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย โดยบริษัทเรามีบริการรับทำเว็บไซต์ด้วย WordPress ซึ่งเราใช้ Cloudflare เป็นกำแพงอยู่ในบริการด้วยครับ