Conversion rate คืออะไร อีกเรื่องที่นักการตลาดออนไลน์จำเป็นต้องรู้ 

 

Conversion rate คืออะไร หากนักการตลาดออนไลน์คนไหนยังสงสัยหรือข้องใจอยู่ ต้องรีบเข้ามาทำความเข้าใจด่วน เพราะสำคัญกับนักการตลาดออนไลน์อย่างมาก เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์ที่ได้หลังยิงแอดโฆษณาบนออนไลน์ ซึ่งสอดคล้องกับงบประมาณ ค่าใช้จ่ายในการโฆษณาออนไลน์ และการต่อยอดทำการตลาดในระยะยาว

Conversion rate คืออะไร?

 

Conversion rate คือ สัดส่วนการตอบสนองต่อโฆษณา ใช้วัดประสิทธิภาพของโฆษณานั้นว่าสร้างผลลัพธ์ได้มากหรือน้อยแค่ไหน ควรเปิดใช้งานโฆษณานั้นต่อไปหรือไม่ หรือควรปิดไปก่อน มักใช้วัดโฆษณาออนไลน์ เพราะโฆษณาออนไลน์มีฟังก์ชั่นที่สามารถวัด Conversion rate ได้ 

 

อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัดส่วนการตอบสนองต่อโฆษณา คือเวลานักการตลาดโพสต์โฆษณาเอาไว้ 1 ชิ้น แล้วมีการใช้เงินจ่ายสำหรับโฆษณาชิ้นนั้นลงไปใน Platform หนึ่ง หลังจากนั้นโฆษณานั้นจะแสดงผลไประยะหนึ่ง ตัว Platform ก็จะมีการเก็บข้อมูลเอาไว้ ตามคุณสมบัติของแต่ละ Platform ว่าสามารถเก็บผลลัพธ์อะไรไว้ได้บ้าง หลังจากนั้นก็จะทำการคำนวณ Conversion rate ออกมา เพื่อแสดงถึงผลลัพธ์ของโฆษณาชิ้นดังกล่าว ว่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน 

การคำนวณ Conversion rate 

 

การคำนวณ Conversion rate คือการคำนวณเป็น % ดูว่าสัดส่วนการตอบสนองต่อโฆษณานั้นมีกี่ % คำนวณจาก (จำนวนคนที่  Action กับ โพสต์/จำนวนคนคลิกโพสต์ทั้งหมด) x 100 ยกตัวอย่างเช่น 

 

  • มีคนคลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้า 1,000 คน แต่สั่งซื้อสำเร็จ 200 คน ดังนั้น Conversion rate ของการสั่งซื้อสำเร็จ = (200/1,000) x 100 = 20%
  • มีคนเข้าเว็บไซต์ทั้งหมด 500 คน แต่มีคนคลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้า 50 คน ดังนั้น Conversion rate ของคนคลิกปุ่มสั่งซื้อสินค้า = (50/500) x 100 = 10%

 

Conversion rate มักใช้วัดอัตราการสั่งซื้อ แต่ก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะบางครั้ง Conversion rate ก็วัด Action อย่างอื่นด้วยเช่นกัน ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการวัด ซึ่งนักการตลาดจะวัดผลเพื่อวางแผนการตลาดต่อไป อาจมีการใช้แคมเปญโฆษณาเข้ามาร่วมด้วย เพื่อกำหนดว่าจะวัด Conversion rate ของ Action ไหนเทียบกับอะไร บางกรณีมีการวัด Conversion rate ของการส่งข้อความเข้ามาโดยไม่จำเป็นต้องซื้อ เพื่อทำการตลาดต่อคนกลุ่มนั้นซ้ำก็เป็นไปได้ 

ความสำคัญของ Conversion rate คืออะไร?

 

Conversion rate มีความสำคัญต่อการทำการตลาดออนไลน์อย่างมาก เนื่องจากใช้วัดประสิทธิภาพของโฆษณาได้ ไม่เพียงเท่านั้นแต่ยังช่วยให้นักการตลาดมองเห็นกลุ่มเป้าหมายได้ชัดขึ้น เพราะข้อมูลจาก Coversion rate ใช้วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายได้ สามารถนำมาปรับใช้เพื่อผลิตเนื้อหาให้สอดคล้องกับความสนใจและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ เพื่อเพิ่ม Conversion rate ให้สูงขึ้นกว่าเดิม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาให้สร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 

 

เทคนิคเพิ่ม Conversion rate คืออะไร?

 

Conversion rate คือ สัดส่วนการตอบสนองต่อโฆษณา ดังนั้นยิ่งมีค่ามากเท่าไรก็ยิ่งดี เพราะแปลว่าการตอบสนองต่อโฆษณานั้นมีสูง หากเต็ม 100% ก็แปลว่าในจำนวนคนที่เห็นโฆษณา 100 คน อาจสั่งซื้อทั้ง 100 คนเลย แต่นี่เป็นเพียงการยกตัวอย่างเท่านั้น เพราะโอกาสที่จะเต็ม 100% นั้นยากมาก สิ่งที่นักการตลาดทำได้ก็คือพยายามทำให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือทำ Conversion rate ให้สูงกว่าที่เคยทำได้ โดยอัตรา Conversion rate ที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละธุรกิจ เทคนิคที่ช่วยเพิ่ม Conversion rate ได้ มีดังนี้

 

1.Call To Action

 

Call To Action  หรือการโน้มน้าวให้ผู้รับสารในโฆษณาทำอะไรสักอย่าง ช่วยเพิ่ม Conversion rate ให้สูงขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่นต้องการให้ Conversion rate ของคนซื้อสินค้าต่อจำนวนคนคลิกโฆษณาสูงขึ้น อาจทำ Call To Action เพื่อให้คนที่คลิกโฆษณานั้นซื้อสินค้า ยกตัวอย่างเช่น ติดปุ่มสั่งซื้อสินค้าในโฆษณานั้น หรือใส่ข้อความเชิญชวนให้รีบเข้ามาสั่งซื้อทางปุ่มส่งข้อความ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสให้เกิดการซื้อได้มากกว่าโฆษณาที่ไม่มี Call To Action หรือไม่มีการเรียกร้องให้ซื้อสินค้า ทั้งนี้อาจเป็นข้อความเรียกร้องธรรมดา หรือการเรียกร้องด้วยส่วนลด ย่อมเป็น Call To Action ได้ทั้งนั้น ซึ่งมีโอกาสเพิ่ม Conversion rate ได้

 

2.รูปภาพที่ดีงดูด 

 

เทคนิคที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างที่ช่วยเพิ่ม Conversion rate คือรูปภาพที่ดึงดูด ส่วนนี้ต้องพึ่งกราฟฟิคดีไซเนอร์ให้ช่วยออกแบบภาพให้ และในส่วนของนักการตลาดเองก็ต้องเป็นคนดูภาพรวมของภาพนั้นด้วยว่าสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้หรือไม่ อาจดึงดูดให้เกิดการคลิก หรือดึงดูดให้เกิดการส่งข้อความ รวมถึงดึงดูดให้มี Action อื่น ย่อมนำมาซึ่ง Conversion rate ที่ต้องการได้ รูปภาพที่ดึงดูดไม่ใช่แค่สวยเท่านั้น แต่ต้องออกแบบให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ เช่น ภาพโปรโมชั่นเร่งปิดการขาย ก็ต้องมีการออกแบบโทนภาพให้เร่งการซื้อ และมีข้อความเด่นชัด มีรูปประโยคชักชวนที่โดดเด่นกระตุ้นใจกลุ่มเป้าหมายได้ ฯลฯ

3.การตอบกลับลูกค้า

 

การตอบกลับลูกค้าก็สามารถเพิ่ม Conversion rate ได้ เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามโดยเด็ดขาด ยิ่งถ้าหากลูกค้าทักข้อความมาจากแอดโฆษณาที่มีการติดปุ่มส่งข้อความเอาไว้ เมื่อลูกค้าส่งข้อความมาแล้ว ไม่มีการตอบกลับ ลูกค้าอาจหนีหายไปเลย แต่ถ้าหากมีการตอบกลับที่รวดเร็ว และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ก็มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น ช่วยเพิ่ม Conversion rate ให้สูงขึ้นได้

 

หลังจากทำความเข้าใจกันไปแล้วว่า Conversion rate คืออะไร สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือการนำไปปรับใช้ในธุรกิจของตัวเองได้อย่างเหมาะสม โดยเฉพาะเทคนิคการเพิ่ม  Conversion rate ที่ควรนำไปใช้ ซึ่งเนื้อหาในนี้เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว เทคนิคการเพิ่ม Conversion rate ยังมีอีกหลายวิธีการ อาจแตกต่างกันออกไปในแต่ละธุรกิจ